Last updated: 12 ม.ค. 2564 | 7808 จำนวนผู้เข้าชม |
ยากกว่าการรักษาสิว ก็คือการรักษาร่องรอยจากสิวนี่แหละ !!
ถึงสิวหายก็อย่าเพิ่งชะล่าใจนะคะ เพราะอาจจะยังมีรอยดำ หรือรอยแดงจากสิวหลงเหลือให้เจ็บใจเล่นอีก
เคยสงสัยกันไหมว่ารอยดำ กับรอยแดง แตกต่างกันยังไง ? รักษาต่างกันไหม ?
และแบบไหนที่หายยากกว่า? วันนี้ Cheva Clinic หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ต่างกันยังไง?
หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นรอยสิวเหมือนๆกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองรอยนี้ แตกต่างตั้งแต่สาเหตุที่เกิด วิธีการรักษา และระยะเวลาการรักษาเลยค่ะ
รอยแดง เกิดจากผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการอักเสบ จากถูกรบกวนทั้งการบีบ แกะ แคะ เกา หรือการสครับ ทำให้เกิดการบวมช้ำ และอักเสบจนเป็นรอยสีแดงค่ะ
รอยดำ เกิดจากการรักษาตัวของเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย แต่ไม่ได้สร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ จึงทำให้ผิวบริเวณนั้นมีสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำค่ะ
รักษายังไง?
ถึงจะนับเป็นร่องรอยจากสิวเหมือนกัน แต่การรักษารอยแดง และรอยดำก็มีบางขั้นตอนที่แตกต่างกันนะคะ
รอยแดง : ตัวยาที่ใช้รักษาจะเน้นเรื่องช่วยลดความอักเสบผิว พร้อมๆ กับฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวหนังที่กำลังบอบช้ำจากการอักเสบค่ะ
รอยดำ : เน้นส่วนผสมที่ช่วยลดจำนวนเม็ดสี และลดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีค่ะ
นอกจากการใช้ยารักษา ในปัจจุบันยังมีอีกหนึ่งการรักษาที่กำลังเป็นนิยม คือการรักษาด้วยเครื่อง IPL ด้วยการใช้ฉายแสงเข้าไปลึกถึงชั้นผิว เพื่อรักษารอยแดง และรอยดำ โดยที่ไม่เป็นการทำร้ายผิวค่ะ
รอยแบบไหนหายยากกว่า?
ถึงรอยทั้งสองชนิดรักษายาก แต่ก็ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้นะคะ
โดยทั่วไปแล้วรอยแดงจากสิวจะใช้เวลาในการรักษามากกว่ารอยดำ เพราะรอยดำสามารถทำให้จางลงได้ด้วย ครีมบำรุงผิวประเภท Dark Spot Corrector หรือ Whitening Serum แต่สำหรับรอยแดงค่อนข้างจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่าในการฟื้นฟูผิวจากการอักเสบค่ะ
___________________________
15 มิ.ย. 2565
5 พ.ค. 2565
14 เม.ย 2565
15 พ.ค. 2565